ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค flag patternหรือในภาษาไทยคือรูปแบบธง คือรูปแบบราคาที่เกิดในกรอบเวลาที่สั้นกว่า จะเคลื่อนไหวสวนทางกับแนวโน้มราคาที่สังเกตได้ในกรอบเวลาที่ยาวบนกราฟราคา ชื่อนี้มาจากลักษณะที่เตือนให้นักลงทุนนึกถึงธงบนเสาธง ทั้งนี้นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ flag pattern ได้หลากหลาย บทความนี้จะเจาะลึกที่ Bear Flag Pattern ลักษณะพฤติกรรมของ Bear Flag รวมไปถึงกลยุทธ์และเวลาที่เหมาะสมในการเทรดด้วย Bear Flag Pattern
Flag ดูอย่างไร และมีกี่ประเภท
รูปแบบ flag patternใช้เพื่อระบุความต่อเนื่องที่เป็นไปได้ของแนวโน้มก่อนหน้าจากจุดที่ราคาเคลื่อนตัวสวนทางกับแนวโน้มเดียวกันนั้น หากแนวโน้มกลับมาดำเนินต่อ การเพิ่มขึ้นของราคาอาจรวดเร็ว ทำให้จังหวะการเทรดได้เปรียบโดยสังเกต Flag Pattern
พื้นที่ธงหรือ Flag จะมีการรวมอย่างแน่นหนาของเทรนด้านราคาซึ่งแสดงการเคลื่อนไหวสวนทางกับแนวโน้มที่ตามมาหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่ชัดเจน โดยทั่วไปรูปแบบจะประกอบด้วยแท่งราคาตั้งแต่ 5-20 แท่ง ทั้งนี้ด้านล่างของธงไม่ควรเกินจุดกึ่งกลางของเสาธงที่อยู่ข้างหน้า
Flag Pattern แบ่งออกเป็นสองประเภท
- ธงแนวโน้มขาขึ้น (Bull Flag Pattern)
รูปแบบธงขาขึ้น (Bull Flag Pattern) รูปแบบธงขาขึ้นจะเพิ่มขึ้นในแนวโน้มก่อนหน้าและลดลงในตอนท้าย เป็นแนวโน้มขาขึ้นของตราสารที่มีลักษณะเหมือนธงบนเสาธง แสดงถึงช่วงเทรนขาขึ้นอย่างรวดเร็วแบบเสาธงตามด้วยรูปแบบการซื้อขายขึ้นและลง การเรียนรู้รูปแบบ Bull Flag Pattern สามารถช่วยให้นักลงทุนระบุแนวโน้มขาขึ้นของตราสารชนิดใดก็ได้
ในรูปแบบ Bull Flag Pattern ส่วนธงของแผนภูมิอาจแสดงคล้ายตัว ‘W’ ภายในธง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบตัว ‘M’ ซึ่งอาจส่งสัญญาณเป็นดับเบิ้ลท็อปเชิงลบมากกว่า Bull Flag Pattern แม้ธงจะเป็นแนวนอน แต่มักจะเอนลงได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มสวนทางกับราคาที่สูงขึ้นก่อนหน้านี้
- ธงแนวโน้มขาลง (Bear Flag Pattern)
ในทางตรงกันข้าม Bear Flag Pattern จะเพิ่มขึ้นก่อนแล้วจึงมีแนวโน้มที่จะรักษาระดับ เนื่องจากแนวโน้มขาลงมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณการเทขายเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นในกราฟขาลง ทั้งนี้ในกรณีของกราฟตลาดขาลง รูปแบบ Bear Flag Patternจะปรากฏกลับหัว ซึ่งเป็นรูปแบบกลับหัวของรูปแบบธงตลาดหมี เกิดขึ้นเมื่อแนวโน้มของตลาดเข้าสู่เทรนเพื่อปรับราคาใหม่ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การรวมเทรนราคาขาลงมักจะสังเกตได้จากรูปแบบ Bear Flag Pattern
ลักษณะพฤติกรรมของ Bear Flag
การสังเกตลักษณะพฤติกรรมของ Bear Flag Patter ไม่ใช่เรื่องยากเมื่อเทรดเดอร์เข้าใจองค์ประกอบต่างๆ และ Bear Flag Patter ใช้ได้กับทุกตลาดการเงิน ไม่ใช่แค่ฟอเร็กซ์ โดยรูปแบบ Bear Flag Patter นั้นแบ่งออกเป็นสามส่วน ดังนี้
1. เทรดเดอร์จะต้องค้นหาเสาธงซึ่งเป็นการลดลงของราคาครั้งแรก การลดลงนี้อาจสูงชันหรือลาดเอียงอย่างช้าๆ เพราะเป็นการเริ่มต้นสร้างพื้นฐานสำหรับแนวโน้ม
2. Bear Flag Patter ถูกระบุว่าเป็นช่วงเวลาของการรวมฐานหลังจากจบช่วงแรกของการลดลงของราคา ในช่วงเวลานี้ ราคาอาจขยับขึ้นอย่างช้าๆ และถอยกลับบางส่วนจากการเคลื่อนไหวครั้งแรก ณ จุดนี้ เทรดเดอร์จะรอให้ราคาทะลุระดับต่ำสุด (lower lows) ในทิศทางของแนวโน้ม
3. หลังจากที่ราคาเริ่มลดลงอีกครั้ง เทรดเดอร์สามารถค้นหาองค์ประกอบสุดท้ายที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ Bear Flag Patter เป้าหมายการทำกำไรคือค่าที่เป็นไปได้ในการทำกำไรหลังจากที่ราคาลดลงในครั้งต่อไปของคู่สกุลเงิน ระดับราคานี้สามารถระบุได้โดยการวัดระยะทางเป็น pip ของการลดลงครั้งแรกของเรา ค่านี้สามารถหักออกจากแนวต้านสูงสุดที่เกิดขึ้นจากการรวมสถานะของเรา
Bear Flag Pattern คืออะไร
Bear Flag Patter เป็นรูปแบบทางเทคนิคที่แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มขาลงที่มีอยู่ การก่อตัวของ Bear Flag Patter เริ่มจากด้านเมื่อทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่งเริ่มลดลง ตามด้วยช่องทางรวมในทิศทางขึ้น (ดูภาพด้านล่าง) การเคลื่อนไหวลงอย่างมากเรียกว่า ‘เสาธง’ ในขณะที่การรวมเรียกว่า ‘ธง’ หรือ Flag
Bear Flag Patter มีเทรนก่อนหน้าก่อตัวหลังจากการเคลื่อนไหวของราคาซื้อขายในแนวโน้มขาลง ทำให้เกิดราคาต่ำที่สุดจากจุดสูงสุด (lower highs) และราคาต่ำสุดใหม่ (lower lows)
เมื่อกราฟไปแตกที่จุดต่ำสุดใหม่ การเคลื่อนไหวของราคาจะเริ่มดีดกลับสูงขึ้นเมื่อผู้ขายพักหายใจ การรวมฐานนี้เกิดขึ้นภายในช่องทางคู่ขนาน ซึ่งแตกต่างจากชายธงขาลงที่การรวมฐานอยู่ในรูปแบบลิ่มหรือสามเหลี่ยม
ผู้เปิดตำแหน่งซื้อพยายามช่วยกันวางออเดอร์เพื่อลดกระแสของผู้ขายซึ่งเป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหวของราคา ในทางกลับกัน ตลาดหมีจะถอยหลังเพื่อรวมกำไรล่าสุดและเตรียมพร้อมสำหรับการกดต่ำอีกครั้ง
Bear Flag Pattern ทำงานอย่างไร
ดังที่ทราบดีว่า flag pattern ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือกราฟราคาที่มีลักษณะสวนทางกันอย่างรุนแรง โดยพื้นฐานแล้วบ่งชี้ว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นจะดำเนินต่อไป รูปแบบ Bear Flag Pattern ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าสู่ตลาดในช่วงกลางของแนวโน้ม การดิ่งลงของราคาในแนวโน้มก่อนหน้านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถชะลอการเข้าสู่ตลาด หรือเลือกเทรดด้วยการเปิดตำแหน่ง Short
รูปแบบการทำงานของ Bear Flag Pattern
- การเริ่มต้นของขาลง (เสาธง)
- การรวมฐานที่ลาดเอียงไปในแนวโน้มขาขึ้น (ธงหมี)
- ทั้งนี้หากการย้อนกลับสูงกว่า 50% อาจไม่ใช่รูปแบบธง ตามหลักการแล้ว เราจะเห็นการย้อนกลับน้อยกว่า 38%
- เริ่มเข้าที่ด้านบนสุดของธงหรือที่การเปลี่ยนแปลงของราคางด้านล่างของช่องด้านล่าง
- มองหาราคาที่ต่ำกว่าโดยมีความยาวเท่ากับขนาดของเสาธง
ข้อดีและข้อเสียของ Bear Flag Pattern
ข้อดีของ Bear Flag Pattern
- รูปแบบทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การย้อนกลับสิ้นสุดที่ประมาณ 38.2% ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตรงกับในตำรา ดังนั้นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันคือการให้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่น่าดึงดูดมาก เนื่องจากมีการกำหนดระดับไว้อย่างชัดเจน
- รูปแบบ Bear Flag Pattern มีความน่าเชื่อถือ สม่ำเสมอ และพบได้ทั่วไป พบได้ทุกที่ตั้งแต่กราฟรายวันไปจนถึงกราฟ 5 นาที เพราะรูปแบบนี้จะทำงานได้ ไม่ว่าคุณกำลังใช้กรอบเวลาใด
- คุณสามารถใช้Bear Flag Pattern กับตราสารหรือเครื่องมือการซื้อขายชนิดใดก็ได้
- ช่วยกำหนดระดับการเข้าซื้อขายและหยุดการซื้อขายเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยในการลงทุนได้แม่นยำ
ข้อเสียของ Bear Flag Pattern
- ขั้นตอนการรวมฐานอาจส่งผลให้ทิศทางแนวโน้มเปลี่ยน ผู้ขายอาจสูญเสียเทรนแนวโน้มเมื่อการรวมตัวเทรนราคาดำเนินไป ในขณะที่ผู้ซื้ออาจมั่นใจมากขึ้นว่าเฟสปัจจุบันนี้ไม่ใช่เทรนราคาที่จะเกิดขึ้นจริง แต่เป็นการกลับตัวของแนวโน้ม ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้เทรดตาม Bear Flag Pattern ที่มีช่วงเทรนแนวโน้มที่ยาวและขาดๆ หายๆ รวมถึงช่วงขยายที่สูงกว่า 50%
- รูปแบบธง Bear Flag Pattern ที่ถูกต้องมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก
- คุณไม่สามารถใช้รูปแบบBear Flag Pattern ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ คุณต้องเลือกเฉพาะรูปแบบที่ถูกต้อง
ตัวอย่างของ Bear Flag Pattern
ในรูปแบบ Bear Flag Pattern ปริมาณจะไม่ลดลงเสมอระหว่างการรวมเทรน เหตุผลของเรื่องนี้คือการเคลื่อนไหวของราคาที่มีแนวโน้มลดลงมักเกิดจากความกลัวของนักลงทุนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาที่ลดลง ยิ่งราคาตกลงมากเท่าไหร่ นักลงทุนที่เหลือก็จะรู้สึกเร่งรีบในการดำเนินการขายมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นการเคลื่อนไหวเหล่านี้จึงมีรูปแบบปริมาณที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย (และเพิ่มขึ้น) เมื่อราคาหยุดเป็นขาลงชั่วคราว ปริมาณที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ลดลง แต่ควรคงไว้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหมายถึงการหยุดชั่วคราวในระดับความวิตกกังวล เนื่องจากระดับโวลุ่มได้เพิ่มขึ้นแล้ว การดิ่งของขาลงอาจไม่เด่นชัดเท่ากับการพุ่งขึ้นของราคาขาขึ้นในรูปแบบ bullish pattern
วิธีสแกนหาหุ้นที่เกิดสัญญาณ
การเทรด Bear Flag Pattern เราต้องสแกนหาหุ้นที่เกิดสัญญาณโดยกลยุทธ์การตั้งคำถามเหล่านี้
- สภาพแนวโน้มของตลาดเป็นอย่างไร?
- ทริกเกอร์ของการเกิดรูปแบบเพื่อเทรด Bear Flag Pattern คืออะไร
- คุณจะตั้ง Stop Loss เท่าไหร่?
- คุณจะออกจากตลาดได้อย่างไร?
ควรเทรด Bear Flag Pattern ในเวลาใด
2 ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดตามรูปแบบ Bear Flag Pattern
- ราคาอยู่ใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA)
ไม่ควรเทรดตามรูปแบบ Bear Flag เมื่อราคาอยู่ไกลจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เนื่องจากราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวสูงขึ้น ให้รอให้ราคาถอยกลับไปสู่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (เช่น 20MA) แล้วจึงมองหาโอกาสระยะสั้น
- การกลับราคาครั้งแรกหลังจากหลุดแนวซัพพอร์ต
เทรดเดอร์ควรรอให้รูปแบบ Bear Flag Pattern ก่อตัวขึ้นหลังจากการพังทลายของแนวรับ คุณมีความเสี่ยงที่ดีกว่าในการได้รับผลตอบแทนแลมีโอกาสซื้อขายสูงกว่า (เนื่องจากผู้ซื้อจะเริ่มอ่อนกำลังลง) และเทรดเดอร์สามารถตั้งค่า Stop Loss ที่เหนือระดับสูงสุดของ Bear Flag
เทรด Bear Flag Pattern ได้อย่างไร
ช่วงการตั้งค่าสถานะในรูปแบบ Bear Flag Pattern บ่งชี้ถึงช่วงการเทขาย ดังนั้น หลังจากการเคลื่อนไหวของราคาลดลงอย่างรวดเร็ว ตลาดจะหยุดพักหรือราคายังคงกลับตัวขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่ราคาจะยังคงเคลื่อนไหวต่อไปตามช่วงขาลงในปัจจุบัน
เทรดเดอร์สามารถเริ่มวางเดิมพันได้ทันทีที่ขั้นตอนการกลับตัวสั้นๆเพียงชั่วคราวสิ้นสุดลง เมื่อราคาทะลุแนวรับของธง เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะสั้นหรือวางคำสั่งขาย อย่างไรก็ตาม ควรรอการยืนยันของแนวโน้มขาลงอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดเทรดเดอร์ยังสามารถรอเข้าตลาดที่จุดด้านบนสุดของธง
สรุป
Bear Flag Pattern เป็นหนึ่งในหลาย ๆ รูปแบบที่นักลงทุนนิยมใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด เป็นการดีที่สุดที่จะฝึกฝนรูปแบบเหล่านี้ในบัญชีทดลองผ่าน CM Trade หรือเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยก่อน การใช้กราฟและเทคนิคที่ถูกต้องในการวิเคราะห์ต้องอาศัยการฝึกฝน การสังเกต และประสบการณ์ในส่วนของเทรดเดอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและความอดทน ดังนั้นควรระวัง และลงทุนเงินของคุณอย่างระมัดระวัง