กองทุน SSF หรือ Super Saving Funds คือกองทุนอะไร? กองทุน SSF เหมาะกับใคร? แล้วกองทุน SSF ลงทุนในอะไรบ้าง? สิทธิประโยชน์ต่างๆของกองทุน SSF ที่ผู้ซื้อหน่วยลงทุนจะได้คืออะไรบ้าง? ถ้าทุกท่านมีความถามเหล่านี้อยู่ในใจ ทุกท่านมาถูกทางแล้วนี่คือบทความที่จะตอบคำถามที่อยู่ในใจทุกท่าน รวมถึงสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อกองทุน SSF ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรรู้ ถ้าพร้อมแล้วลุยกันเลยครับ
กองทุน SSF คืออะไร?
กองทุนรวมซุปเปอร์ออมทรัพย์ (SSFs) กองทุน Super Savings Fund หรือ SSF เป็นกองทุนส่งเสริมการออมระยะยาวที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทดแทนกองทุน Long Term Equity Fund หรือ LTF ที่สิ้นสุดในปี 2562 วัตถุประสงค์ของกองทุนประเภทนี้คือเพื่อส่งเสริมผู้มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ กลุ่มและคนที่กำลังเข้าสู่กลุ่มแรงงานเพื่อให้มีเงินออมระยะยาวมากขึ้นและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
กองทุน SSF เหล่านี้สามารถลงทุนในทรัพย์สินทุกประเภท ได้แก่ หลักทรัพย์ไทย หลักทรัพย์ต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนสมดุล และมีทั้งการจ่ายเงินปันผลและไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ผู้ลงทุนจึงต้องเข้าใจลักษณะ นโยบายการลงทุน และเงื่อนไขผลตอบแทนการลงทุน ความเสี่ยงและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุน SSF เหมาะกับใคร
กองทุน SSF จะเน้นเรื่องการออมซึ่งคล้ายกับกองทุน RMF แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างที่สำคัญคือ กองทุน RMF นั้นจะต้องอยู่ในกองทุนจนถึงอายุครบ 55 ปี ถึงจะสามารถขายคืนได้ ต่างกับกองทุน SSF ที่มีระยะเวลาขายคืนอยู่เพียงแค่ 10 ปีก็สามารถขายคืนได้แล้ว กองทุน SSF จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ต้องการเงินก้อนเพื่อการเกษียณเพียงอย่างเดียว และยังเหมาะกับผู้ที่ออมเงินเพื่อลงทุนที่มีเป้าหมายในอนาคตอีกด้วย
กองทุน SSF ลงทุนในอะไรบ้าง
กองทุน SSF นั้นลงทุนในหลักทรัพย์ทุกประเภท เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม ฯลฯ ซึ่งจะมีการลงทุนหลากหลายมากกว่ากองทุน LTF ที่ลงทุนเฉพาะหุ้นสามัญในประเทศไทยเท่านั้น ทำให้กองทุน SSF มีความน่าสนใจมากว่า
สิทธิประโยชน์ของกองทุน SSF
ในส่วนของสิทธิประโยชน์ของกองทุน SSF นั้นผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุน SSF สามารถน้ำเงินนั้นไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่กฏหมายกำหนดเพดานให้หักลดหย่อนได้ตามจริง แต่มีข้อจำกัดคือลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตลอดทั้งปีหรือไม่เกิน 200000 บาทเมื่อนับรวมกองทุนการออมเพื่อการเกษียณประเภทอื่นๆตามเงื่อนไขที่กำหนด จะต้องไม่เกิน 500000 บาท
ยกตัวอย่าง ถ้ามีเงินที่ต้องเสียภาษีตลอดทั้งปีเป็นเงิน 2,000,000 บาท แล้วซื้อกองทุน SSF ไป 400,000 บบาท จะหักได้ตามที่จ่ายจริงแค่ไม่เกิน 200,000 บาท
ข้อเสียของกองทุน SSF
หลังจากทุกท่านได้ทราบข้อดีต่างๆของกองทุน SSF ไปแล้วทีนี้เรามาดูอีกมุมหนึ่งของกองทุน SSF ว่าข้อเสียมีอะไรบ้างกันครับ
- เงื่อนไขการขายคืนหน่วยลงทุนเพิ่มเป็น 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ ซึ่งมีระยะเวลานานที่ยาวกว่าเดิมกล่าวคือ LTF เดิมทีสามารถขายคืนได้ใน 7 ปี
- ปัจจุบันให้ประโยชน์ลดหย่อนภาษีเพียง 5 ตั้งแต่ปี 2563 – 2567 โดยหลังจากนี้จะมีการพิจารณาอีกที
กองทุน SSF มีเงื่อนไขอย่างไร
การลงทุนของ SSF จะต้องจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปีหรือมากกว่านับจากวันแรกของการลงทุน (นับจากวันที่ลงทุนครั้งแรกจนถึงวันครบรอบ) แต่ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีที่ผู้ลงทุนทุพพลภาพหรือเสียชีวิต การไถ่ถอนหน่วยลงทุนเป็นแบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO) การลงทุนของ SSF สามารถหักลดหย่อนภาษีได้เฉพาะในปีที่นักลงทุนลงทุนใน SSF หากฝ่าฝืนเงื่อนไขการลงทุนของ SSF ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติตามระเบียบที่ระบุไว้ในคู่มือ SSF
กองทุน SSF มีรายละเอียดอย่างไร
หลังจากทุกท่านได้ทราบถึงประโยชน์และสิทธิต่างๆของกองทุน SSF ไปแล้ว คงจะมีคำถามในใจเกี่ยวกับรายละเอียดของเจ้ากองทุน SSF อยู่ใช่ใหมละครับ ต่อไปนี้คือรายละเอียดเล็กๆน้อยของตัวกองทุน SSF ที่ทุกท่านควรทราบครับ
- การถือครองของกองทุน SSF นั้นจำเป็นต้องถือครองไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน)
- กองทุน SSF นั้นลงทุนในหลักทรัพย์ทุกประเภท เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม ฯลฯ
- ไม่กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน
- เงินที่จ่ายซื้อหน่วยลงทุน SSF สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยเริ่มปรับใช้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป สามารถลดหย่อนได้ปีต่อปี ในช่วงระยะเวลาปี 2563-2567
เรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อกองทุน SSF
หลังจากทุกท่านได้อ่านหัวข้อ สิทธิประโยชน์ต่างๆ หรือกองทุน SSF เหมาะกับใคร ข้อดีข้อเสียกันไปแล้วรวมถึงเงื่อนไขของกองทุน SSF ว่ามีอย่างไรบ้างทีนี้ผมจะพาทุกท่านไปสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับหัวข้อที่เกริ่นมาข้างต้นนั่นคือ เรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อกองทุน SSF ตามด้านล่างนี้เลย
- ปัจจุบันยังไม่มีแผนใช้เงิน
กองทุน SSF สามารถใช้เป็นเงินเก็บออมระยะยาวได้เนื่องจากจำเป็นต้องถือครองหน่วยลงทุนอย่างน้อย 10 ปี ผู้ลงทุนจึงจำเป็นต้องมีความมั่นใจว่าสามารถถือหน่วยลงทุนได้จนครบกำหนดโดยไม่มีปัญหาทางการเงิน
- เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงทุนตั้งแต่อายุไม่เยอะ
สำหรับนักลงทุนที่อายุน้อยกว่า 45 ปีแล้วเมื่อคำนวณระยะเวลาในการลงทุนแล้วนั้น จะพบว่าการลงทุนในกองทุน SSF นั้นมีความเหมาะสมมากว่ากองทุน RMF เพราะระยะเวลาการลงทุนสั้นกว่า คือสามารถถือหน่วยลงทุนเพียง 10 ปีก็สามารถทำการขายคืนได้แล้ว ต่างจากกองทุน RMF ที่ต้องลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์และต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีเต็มนับจากวันลงทุนวันแรกด้วย
กองทุน SSF, SSF Extra กับ LTF ต่างกันตรงไหน
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกองทุน SSF, SSF Extra และ LTF
สรุป
หลังจากกองทุน LTF สิ้นสุดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2562 ส่งผลให้กองทุน SSF และ SSF Extra ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยข้อดีและข้อเสียแต่ละกองทุนก็แตกต่างกันไปโดยผมจะสรุปให้ฟังอีกครั้งนะครับ
- กองทุน SSF ออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาว แต่ไม่ยาวเท่า RMF โดยระยะเวลาถือครองจนสามารถขายคืนอยู่ที่ 10 ปี อีกทั้งกองทุน SSF ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีมาเป็นแรงจูงใจอีกด้วย และที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับกองทุน SSF คือเป็นตัวเลือกการลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หุ้น ตราสารหนี้ ดัชนี เป็นต้น
- กองทุน SSF Extra ออกแบบมาเพื่อพยุงตลาดหุ้นไทยที่ทรงไม่ดีจากวิกฤต Covid-19 ที่ส่งผลกระทบให้กับเศรษฐกิจทั่วโลกโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการจูงใจเช่นกัน
หากทุกท่านกำลังมองหาช่องทางลดหย่อนภาษี กองทุน SSF ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับการลดหย่อนได้สูงสุดถึง 30% ของเงินได้พึงประเมินหรือไม่เกิน 200,000 บาท สุดท้ายนี้การลงทุนมีความเสี่ยง ของให้ทุกท่านศึกษาข้อมูลให้มั่นใจก่อนทำการลงทุนครับ