หุ้นรัสเซียดูอย่างไร

การซื้อขายคือการซื้อและขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งตรงข้ามกับการลงทุน ซึ่งแนะนำกลยุทธ์การซื้อและถือ ความสำเร็จในการเทรดขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเทรดในการทำกำไรเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งถ้าพูดถึงการลงทุน ก็ต้องบอกว่าหุ้นเป็นสิ่งที่คนนิยมหันมาลงทุนกันมากขึ้น แต่ในบทความนี้ จะกล่าวถึงหุ้นรัสเซียว่ามันคืออะไร

ตลาดหุ้นรัสเซีย

ตลาดหุ้นรัสเซีย หรือ Moscow Exchange ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 โดยการรวมตลาดแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งในมอสโก ได้แก่ Moscow Interbank Currency Exchange (MICEX) และระบบการซื้อขายของรัสเซีย ดังนั้นชื่อ “Moscow Exchange MICEX-RTS” ทั้งสององค์กรก่อตั้งขึ้นในทศวรรษที่ 1990 และเป็นผู้นำการแลกเปลี่ยนของรัสเซียเป็นเวลาสองทศวรรษด้วยดัชนี MICEX และดัชนี RTS การควบรวมกิจการได้สร้างหน่วยงานเดียวเพื่อสนับสนุนแผนการของรัสเซียในการเปลี่ยนมอสโกให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ

ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียมีอะไรบ้าง

ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซีย มีดังนี้

• MOEX

ตลาดหลักทรัพย์มอสโก MICEX-RTS PJSC ดำเนินการตลาดหลักทรัพย์มอสโก บริษัทประกอบการค้า; บริการหักบัญชีและชำระราคาในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หลักทรัพย์รัฐบาลและตลาดสกุลเงิน ตลาดตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตรองค์กรและระดับภูมิภาค ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

เปิดตลาด: 2,118.43

ช่วงระยะของวัน: 2,116.08 – 2,135.79

ช่วง 52 สัปดาห์: 1,681.55 – 3,892.33

• RTSI (IRTS)

 ดัชนี RTS (RTSI; รัสเซีย: Индекс РТС) เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์แบบลอยตัวอิสระของหุ้นรัสเซีย 50 ตัวที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มอสโก โดยคำนวณเป็นดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีดังกล่าวเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2538 โดยมีการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ Russian Trading System (RTS) ซึ่งต่อมาได้รวมเข้ากับ Moscow Interbank Currency Exchange (MICEX) เพื่อก่อตั้ง Moscow Exchange

เปิดตลาด:1,035.70

ช่วงระยะ ของวัน: 1,034.20 – 1,041.68

ช่วง 52 สัปดาห์: 610.33 – 1,640.39

• MOEX 10

ดัชนี MICEX 10 เป็นดัชนีราคาแบบไม่ถ่วงน้ำหนักที่ติดตามหุ้นรัสเซียที่มีสภาพคล่องมากที่สุดสิบตัวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มอสโก องค์ประกอบของดัชนีได้รับการประเมินทุกไตรมาสตามเกณฑ์สภาพคล่อง

เปิดตลาด: 3,917.46

ช่วงระยะของวัน: 3,915.40 – 3,954.07

ช่วง 52 สัปดาห์: 2,762.78 – 5,962.20

• MOEX BLUE

ดัชนี MOEX Blue Chip คำนวณจากหุ้นของ 15 หุ้นที่มีสภาพคล่องและตัวพิมพ์ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นรัสเซีย มูลค่าเป็นสกุลเงินเปิดตลาด: 13,656.09

ช่วงระยะของวัน: 13,640.76 – 13,768.32

ช่วง 52 สัปดาห์: 10,498.01 – 25,433.19

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นรัสเซีย

• รัสเซียเป็นประเทศที่สามารถนำเสนอความท้าทายสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการผลตอบแทนสูง
• การลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นของรัสเซียอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถึงประเทศได้ผ่านกองทุนรวม ETF และ ADR
• รัสเซียมีความมั่งคั่งทางธรรมชาติมากมายทั้งน้ำมัน ก๊าซ และแร่ธาตุ รวมทั้งเพชร
• เศรษฐกิจของรัสเซียอยู่ในอันดับที่ 11 ในกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2020 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัว 3% โดยมี GDP เล็กน้อยอยู่ที่ 1.48 ล้านล้านดอลลาร์

ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นรัสเซีย

• การทุจริตและการขาดความโปร่งใสเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
• การพึ่งพาน้ำมันทำให้มีความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

โอกาสของการลงทุนในหุ้นรัสเซีย

นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต เศรษฐกิจของรัสเซียได้ผ่านการปฏิรูปตลาดเสรีที่สำคัญ และระหว่างปี 2543 ถึง 2551 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศเพิ่มขึ้นสองเท่า ทำให้เป็นเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญมาก นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆในการลงทุนในหุ้นของรัสเซีย เพราะเศรษฐกิจของรัสเซียยังสามารถโตได้อีกมาก รวมทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีมากมายในรัสเซียนั่นถือเป็นข้อได้เปรียบของรัสเซีย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะสามารถลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือ น้ำมันดิบ เป็นต้น

• รัสเซียเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกและเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศ BRIC
• ผู้ที่มองหาวิธีที่ง่ายในการลงทุนในรัสเซียควรดู ETF และ ADR
• ผู้ที่มองหาการเข้าถึงโดยตรงมากขึ้นอาจต้องการดูการซื้อขายหุ้นใน RTS ของรัสเซีย
• อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ รัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันและเหล็กรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลกอีกด้วย
• อุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่แข็งแกร่ง อุตสาหกรรมเฉพาะบางประเภท เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม มีการเติบโตอย่างมาก
• ชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต รัสเซียมีประชากรจำนวนมหาศาลถึง 142 ล้านคน โดยมีรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ถึง 15% ในแต่ละปี

ความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นรัสเซีย

• การขาดกฎระเบียบ รัสเซียไม่มีมาตรการป้องกันมากมายในการปกป้องนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาหรือระบบเศรษฐกิจที่เน้นตลาดเสรี รัสเซียยังคงเผชิญกับความไม่มั่นคงและความเสี่ยงในระดับที่สูงกว่าสหรัฐฯ
• การพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจของประเทศต้องพึ่งพาราคาพลังงาน หากราคาพลังงานตกต่ำ อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นตลอดปี 2558 และ 2559

หุ้นรัสเซียดูอย่างไร

ดัชนี MOEX Russia ที่อิงกับเงินรูเบิลได้ตัดขาดทุนก่อนหน้านี้เพื่อปิดสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 2,130 ในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 1.3% สำหรับ Lukoil และล่วงหน้า 1% สำหรับ Rosneft ก่อนวันจ่ายเงินปันผลของอดีตในสัปดาห์หน้า ในขณะที่นักลงทุนสลัดคำเตือน จัดตั้ง CBR Head Nabiullina หลังจากการตัดสินใจนโยบายของธนาคารกลาง ธนาคารกลางรัสเซียคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ที่ 7.5% ตามที่เคยส่งสัญญาณไว้ ธนาคารระบุว่าความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อยังคงมีอยู่เนื่องจากการระดมกำลังทหารขัดขวางกำลังแรงงานและกระทบต่อขีดความสามารถ ซึ่งลดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อัตราเงินเฟ้อยังได้รับการสนับสนุนจากเงื่อนไขการค้าที่ไม่เอื้ออำนวยจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งกดดันเงินรูเบิล บริษัทน้ำมันต่างได้รับการผ่อนปรนบางส่วนและกำไรเฉลี่ยสำหรับเซสชันแรกในรอบแปด ถึงกระนั้น การขาดทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ผลิตน้ำมันตั้งแต่เริ่มการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปและการจำกัดราคาของ G7 กดดันให้ดัชนี MOEX ปิดสัปดาห์ต่ำกว่า 2%

ลงทุนในหุ้นรัสเซียควรเริ่มต้นอย่างไร

วิธีที่ง่ายที่สุดในการเข้าถึงตลาดหุ้นรัสเซียคือการซื้อกองทุนรวมที่ซื้อขาย กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) นักลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงความซับซ้อนและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ เช่น ความกังวลด้านภาษี ความเสี่ยงในการดำเนินการ และชั่วโมงการซื้อขายที่แปลก

การแลกเปลี่ยนมอสโกมีเวลาที่แตกต่างกันสำหรับตลาดต่างๆ ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการตั้งแต่ 09.30 น. ถึง 23.50 น. เวลามอสโก (GMT+3); ตลาดตราสารอนุพันธ์ เงินตราต่างประเทศ และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เปิดตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 23.50 น. และตลาด อ.ต.ก. ที่ได้มาตรฐาน เปิดเวลา 10.00-17.00 น. เวลามอสโก

กองทุนและ ADR ของรัสเซียที่เป็นที่นิยม ได้แก่

• กองทุน Voya Russia (กองทุนรวม: LETRX)
• VanEck Vector Russia ETF Trust (NYSE: RSX)
• Gazprom OAO (ADR) (แผ่นสีชมพู: OGZPY)

ลงทุนในตลาดหุ้นรัสเซียเมื่อไหร่ดี

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2022 ฝ่ายบริหารของ Biden ได้ออกคำสั่งผู้บริหารห้ามนักลงทุนในสหรัฐอเมริกาซื้อพันธบัตรหรือหุ้นใหม่หรือที่มีอยู่ซึ่งออกโดยหน่วยงานใดๆ ในสหพันธรัฐรัสเซีย นักลงทุนอาจขายตำแหน่งในรัสเซีย แต่ไม่จำเป็นต้องขาย พวกเขาสามารถทำได้กับนักลงทุนนอกสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

มี ETF สองตัวที่มุ่งเน้นไปที่ตำแหน่งของรัสเซีย: iShares MSCI Russia ETF และ Van Eck Russia ETF ขณะนี้การซื้อขายถูกระงับสำหรับทั้งสองกองทุนนี้

หากกองทุนรวมมีตราสารหนี้หรือตราสารทุนที่ออกโดยหน่วยงานของสหพันธรัฐรัสเซีย นักลงทุนสามารถซื้อ ถือ หรือซื้อขายหลักทรัพย์เหล่านี้ต่อไปได้ตราบเท่าที่ “การถือครองเหล่านี้แสดงมูลค่าน้อยกว่าหุ้นเด่นตามมูลค่า” ของกองทุน กล่าวอีกนัยหนึ่ง เว้นแต่การถือครองของรัสเซียจะมีนัยสำคัญ คุณสามารถซื้อขายกองทุนประเภทนี้ต่อไปได้

ผลกระทบจากสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน​​​​​

• ผลกระทบที่เกี่ยวกับ Forex

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ก่อให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) / รูเบิลรัสเซียที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ความเคลื่อนไหวในตลาด FX ที่กว้างขึ้นนั้นเชื่องได้จนถึงตอนนี้: เงินเยนของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพดีกว่า USD ในขณะที่สกุลเงินยูโรเป็นพื้นที่ที่มีการเปิดเผยมากที่สุด

สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดค่าเฉลี่ยการพลิกกลับ ซึ่งในกรณีนี้ J.P. Morgan Research คาดว่า USD, Swiss franc และเงินเยนจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่มีเบต้าสูง ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ความเสี่ยงในระยะสั้นของ EUR เพิ่มขึ้นตามขนาดที่วัดได้ เนื่องจากเงินยูโรมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ FX สำรองอื่น ๆ เนื่องจากกลุ่มยูโรโซนพึ่งพารัสเซียในด้านพลังงาน ฟรังก์สวิสจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเช่นกัน แม้ว่าการแทรกแซงของธนาคารแห่งชาติสวิสอาจจำกัดกำไรในที่สุด

• ผลกระทบที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์

J.P. Morgan ยังคงคาดการณ์ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะยืดเยื้อออกไปอีกระยะหนึ่ง และสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมดที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับผลกระทบจากรัสเซีย

Natasha Kaneva หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ สะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นและภาวะช็อกจากอุปทานจำนวนมาก เชื่อว่าราคาน้ำมันไม่เพียงแต่จะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 120 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น แต่ยังต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำลายอุปสงค์

ทำไมต้องลงทุนในหุ้นรัสเซีย

• เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพส่งผลให้หุ้นเติบโตขึ้นไปด้วย

รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีกำไรมากที่สุดในโลก จากข้อมูลของ Invest in Russia การเติบโตของ GDP เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6.8 ต่อปีตั้งแต่ปี 2542 และสูงถึงร้อยละ 8.1 ในปี 2550 (เทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยรวมที่ร้อยละ 4-5)

ด้วยเงินรูเบิลที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของ GDP ในปี 1999-2007 นั้นน่าประทับใจถึง 26 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในรูปของเงินดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตในต่างประเทศ

• เพิ่มโอกาสการลงทุน

รัสเซียได้เปิดตัวโครงการลงทุนใหม่ ๆ และกำลังดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับบริษัทที่ต้องการระดมทุนเพื่อเริ่มต้นกระบวนการเติบโต

ทำไมต้องลงทุนในตลาดหุ้นรัสเซียกับ CM Trade

• คุณสามารถซื้อหรือขายหุ้นที่มีอยู่ในตลาดหุ้นของรัสเซียได้ที่ CM TRADE สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเกือบจะรวมถึงทุกบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รัสเซีย
• CM TRADE นำเสนอการเทรดที่สามารถเข้าใจง่าน friendly user แม้จะเป็นผู้เทรดมือใหม่ก็สามารถเข้าใจได้ง่าย
• มีความน่าเชื่อถือ และมีบริการระดับสากล สามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• มีบทความให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สรุป

รัสเซียยังคงดำเนินการเพื่อบรรเทาความไม่แน่นอนและความผันผวนทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาความยากจน รับคนกลับมาทำงาน และจัดการกับการทุจริตทางการเงิน ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยในช่วงปี 2564 แต่อาจใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะสามารถวิเคราะห์มาตรการต่างๆ ได้

นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้ในบริบทของพอร์ตการลงทุนของตน ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย การเปิดรับหุ้นหรือพันธบัตรของรัสเซียอาจเหมาะสมแม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงก็ตาม พอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายอาจเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงในระยะยาว