สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เรามาทำความรู้จักดัชนีที่เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ดัชนีนั้นก็คือ ดัชนี SET50 แล้วดัชนี SET50 คืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักว่า SET50 คืออะไร เราต้องไปทำความรู้จักกับ SET กันก่อนครับ เพราะ SET Index เป็นดัชนีตัวแรกของตระกูล SET และยังรวมถึง SET50 อีกด้วย
SET คือ ดัชนีราคาของหุ้นในตลาดหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนในประเทศไทยซึ่งเป็นตัวบ่งบอกความเคลื่อนไหวในภาพรวมของตลาดหุ้น
ส่วนคำว่า ดัชนี คือ การคำนวณค่าทางสถิติเพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราสนใจ
ดังนั้น ดัชนีราคาหุ้น หรือ SET50 Index คือ ดัชนีที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น 50 ตัวที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดซึ่ง SET50 สามารถวัดการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีที่เดียวในปัจจุบันและในบทความนี้จะพูดถึงวิธีการลงทุนใน SET50 อีกด้วยสำหรับท่านใดที่กำลังลังเลหรือกำลังมองหาหุ้นตัวที่ใช่อยู่และยังคิดว่า SET50 เหมาะกับพอร์ตของทุกท่านอยู่ใหม ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันกันครับ
SET50 คืออะไร?
SET50 Index คือ ดัชนีราคาหุ้นสามัญทั้งหมด 50 ตัว ซึ่งเป็นกลุ่มหลักทรัพย์ที่คัดเลือกและคำนวณมาอย่างดีจากหุ้นสามัญที่จดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดหรือที่หลายคนกับคำว่า Maket Cap ขนาดใหญ่อีกทั้งยังมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงสุด 50 อันดับแรก
กองทุนรวม SET 50 Index
กองทุนรวม SET50 Index คืออะไร? ก่อนอื่นผมจะขอเกริ่นก่อนว่า “กองทุนรวม” นั้นสามารถแบ่งสไตล์การลงทุนกว้างๆได้เป็น 2 รูปแบบคือ
- Active คือการลงทุนที่มีเป้าหมาย “เอาชนะ” ตลาด ดัชนี หรืออุตสาหกรรม ที่เป็นตัวเปรียบเทียบ
- Passive คือการลงทุนเพียงเพื่อให้ผลตอบแทนที่ได้ “ล้อไปกับ” ตลาด ดัชนีหรืออุตสาหกรรมที่เป็นตัวเปรียบเทียบ
ซึ่ง “กองทุนดัชนี” ถือเป็นการลงทุนแบบ Passive อย่างเช่น กองทุนดัชนี SET50 ในบ้านเราก็จะมีเป้าหมายการลงทุนคือ “ทำผลตอบแทนให้ล้อไปกับดัชนี SET50” โดยตารางต่อไปนี้คือตัวอย่างกองทุน SET50 ครับ
วิธีคำนวณ SET50
วิธีการคำนวณดัชนี SET50 คำนวณโดยใช้วิธีเดียวกับดัชนี SET ทั้งดัชนี ดัชนี SET50 เป็นดัชนีราคาถ่วงน้ำหนักตามราคาตลาดซึ่งเปรียบเทียบ มูลค่าตลาดปัจจุบันของหุ้นสามัญทั้งหมดที่มีราคาตลาด ณ วันที่ฐานโดยมีสูตรดังนี้
นอกจากนี้ ดัชนี SET50 จะถูกปรับเมื่อมูลค่าตลาดของหุ้นที่เป็นส่วนประกอบเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เนื่องจากการแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ การใช้ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือการออกหุ้นใหม่สำหรับการเพิ่มทุนของหุ้นที่เป็นส่วนประกอบ วิธีการปรับยังสอดคล้องกับ SET Index
SET50 มีอะไรบ้าง? รายชื่อ SET50
อย่างที่ทราบกันว่า SET50 คือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด 50 อันดับแรกโดยมีรายชื่อตามตารางด้านล่าง
หลักเกณฑ์การคัดเลือกดัชนี SET50
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าคณะทำงานด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 ใหม่ โดยไม่นำหลักทรัยพ์ที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯมารวมคำนวณดัชนีด้วย โดยมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกดัชนี SET50 ฉบับที่ 214/2548 วันที่ 13 ตุลาคม 2548 ดังนี้
- คัดเลือกหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ก่อนถึงวันพิจารณาคัดเลือก ที่มีมูลค่าตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 12 เดือนสูงสุดเป็น 200 อันดับแรก
- เป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพการซื้อขายคล่องหรือมีการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ
- เป็นหลักทรัพย์ที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
- เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่เข้าข่ายการถูกเพิกถอน
- การพิจารคัดเลือกหลักทรัพย์จะกระทำทุกๆ 6 เดือน
ความเสี่ยงของดัชนี SET50
พูดถึงข้อดีหลายด้านของ SET50 มากันเยอะแล้วที่นี้มาฟังสิ่งตรงกันข้ามกันบ้างครับ โดยส่วนมากนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนใน SET50 Index Futures ต่างให้ความสำคัญกับความผิดพลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยงอาจจะทำให้เสียเงินที่ลงทุนได้ ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องมีวินัยและติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างขาดไม่ได้ โดยถ้าอยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จระยะยาวละก็วันนี้เรามีกฏ “4R Know” ซึ่งก็คือหัวใจสำคัญของการลงทุน ที่นักลงทุนควรรู้
- Know Rule สิ่งแรกๆที่นักจำเป็นต้องรู้ก่อนเข้ามาลงทุนในตลาดอนุพันธ์ เช่น เปิดบัญชีอย่างไร ขั้นตอนซื้อขายทำแบบไหน ช่องทางข้อมูลข่าวสารมีที่ไหนบ้าง วิธีการคำนวณหุ้น เดือนที่สัญญาหมดอายุ ปัจจัยใดบ้างที่ต้องระมัดระวัง
- Know Round อีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องรู้ก็คือกรอบระยะเวลาในการซื้อขายแต่ละครั้งเช่น รอบวัน รอบสัปดาห์ หรือรอบเดือน เพราะ SET50 Index Futures สามารถซื้อขายแบบระยะยาวได้ (Run Trend) และซื้อขายภายในวันเดียว (Day Trade)
- Know Risk โดยปกติแล้วนักลงทุนที่วิ่งเข้าตลาดมาก็คงเพราะต้องการผลกำไรกันทั้งนั้น แต่หัวใจสำคัญของการอยู่รอดในตลาดให้ได้และประสบความสำเร็จระยะยาวนั้นสิ่งที่สำคัญมากๆก็คือ ความเสี่ยง แปลว่าหากละเลยความเสี่ยงอาจจะทำให้ขาดทุนได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET50
ในปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีดัชนีต่างๆที่นักลงทุนกันอย่างแพร่หลาย แต่ดัชนีที่นักลุงทุนรู้กันแทบทุกคนคงหนีไม่พ้นดัชนี SET50 โดยในหัวข้อนี้เราจะมากล่าวถึงปัจจัยที่สำคัญที่มีแนวโน้มส่งผลต่อดัชนี SET50 โดยสามารถแบ่งตามหัวข้อได้ดังนี้
- ภาวะเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจดี ผู้คนจะมีความเชื่อมั่นในการลงทุน ทำให้นักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนมาเก๋านำเงินมาลงทุนในตลาด ส่งผลให้ SET50 มีโอกาสวิ่งขึ้น
ในทางกลับกันหากเศรษฐกิจไม่ดี ผู้คนจะไม่กล้าลงทุนทำให้มีเงินลงทุนในตลาดหมุนเวียนน้อย SET50 มีโอกาสวิ่งลง - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีอิทธิพลต่อดัชนี SET50 และราคาหลักทรัพย์ต่างๆในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- เสถียรภาพทางการเมือง หากประเทศไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ก่อม็อบไล่รัฐบาล มีการรัฐประหาร ผู้คนไม่ปรองดองกัน นักลงทุนไทยและต่างประเทศจะไม่มีความเชื่อมั่นและไม่กล้านำเม็ดเงินมาลงทุนในที่สุด
- ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ดาวโจนส์ก็มีอิทธิพลต่อดัชนี SET50 ด้วย
- ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็มีอิทธิพลต่อดัชนีราคา SET50 ด้วยเช่นกัน
ดัชนี SET50 ลงทุนอย่างไร
หลักจากที่ทุกท่านได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนรวม SET50 หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีของ SET50 ก็คงรู้สึกเกิดคำถามมาไม่มากก็น้อยว่า แล้วถ้าฉันจะอยากลงทุนในตัว SET50 ต้องไปไล่ซื้อหุ้น 50 ตัวเลยหรือ? ซึ่งนั่นคงจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งวันแน่นอนกว่าจะซื้อเสร็จ แต่วันนี้ทางเราเว็บ CMTrade มีข่าวดีมาบอก คือทุกท่านสามารถลงทุนดัชนี SET50 ผ่านตราสารอนุพันธ์ที่ใช้ SET50 เป็นดัชนีอ้างอิง เช่น SET50 Index Futures ได้เลยครับ
ซึ่งในปัจจุบันการซื้อขาย Futures จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (TFEX) ก่อน และในส่วนของนักลุงทุนคนไหนที่ยังไม่เคยเปิดบัญชีมาก่อน ก่อนอื่นเลยจะต้องไปทำการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ควบคู่กับบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยการเตรียมเอกสารและส่งไปยังสาขาของบริษัทหลักทรัพย์ที่ต้องการสมัครแล้วรอการยืนยัน
สรุป
วันนี้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับ SET50 คืออะไร? กองทุนรวม SET50 Index มีตัวไหนบ้างโดยตัวกองทุนรวมจะแบ่งได้ 2 ประเภทคือ Passive fund และ Active fund อีกทั้งยังได้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการคำนวณ SET50 และรวมถึงรู้จักรายชื่อ 50 บริษัทที่อยู่ใน SET50 สุดท้ายนี้ก็ขอให้นักลงทุนทุกท่านปฏิบัติตามวินัยการลงทุนและกฏการลงทุนของตัวท่านเองเพื่อทำกำไรได้ตามที่ท่านคาดหวังครับ