กระแสของสกุลเงินคริปโตกำลังมาแรงมากๆในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในตลาดนั้นมีเหรียญที่น่าลงทุนหลายๆ เหรียญ ที่หลายๆท่านคุ้นหูก็น่าจะเป็น Bitcoin เป็นต้น แต่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ยังมีเหรียญอื่นๆที่น่าสนใจอีกหลายเหรียญมาก หลายๆคนก็อาจจะยังไม่รู้จักเหรียญ Bitcoin cash กัน ซึ่งในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงเหรียญ Bitcoin Cash ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร และคืออะไร ดังต่อไปนี้
Bitcoin Cash คืออะไร?
Bitcoin Cash หรือ BCH เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นและเปิดตัวเพื่อนำการกระจายอำนาจกลับสู่สกุลเงินดิจิทัล เป็นผลจาก “ฮาร์ดฟอร์ก” ของ Bitcoin ในปี 2017 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อบล็อคเชนที่มีอยู่แบ่งออกเป็นสองส่วน Bitcoin Cash อนุญาตให้ทำธุรกรรมจำนวนมากในบล็อกเดียวมากกว่า Bitcoin ซึ่งควรลดค่าธรรมเนียมและเวลาในการทำธุรกรรม
- Bitcoin Cash เป็นผลมาจากการ hard fork ของ Bitcoin ที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2017
- Bitcoin Cash ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมได้มากขึ้นในบล็อกเดียว โดยลดค่าธรรมเนียมและเวลาในการทำธุรกรรม
- แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ Bitcoin Cash และ Bitcoin มีความคล้ายคลึงกันทางเทคนิคหลายประการ: พวกเขาใช้กลไกฉันทามติเดียวกันและ จำกัด อุปทานไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ
- Bitcoin Cash ได้รับการแยกตัวในเดือนพฤศจิกายน 2018 และแบ่งออกเป็น Bitcoin Cash ABC และ Bitcoin Cash SV (Satoshi Vision) ในปี 2564 Bitcoin Cash ABC ได้เปลี่ยนชื่อเป็น eCash
- Bitcoin Cash ยังคงทำการค้า – ในราคาเพียงเศษเสี้ยวของ Bitcoin แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวางว่าเป็นรูปแบบการชำระเงิน
Hard Fork คืออะไร?
Hard Fork หรือ ฮาร์ดฟอร์ก เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อคเชน เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโปรโตคอลของเครือข่ายที่ทำให้บล็อกและธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องก่อนหน้านี้มีผล หรือในทางกลับกัน ฮาร์ดฟอร์กต้องการให้ผู้ใช้ทั้งหมดอัปเกรดเป็นซอฟต์แวร์โปรโตคอลเวอร์ชันล่าสุด
- Forks อาจเริ่มต้นโดยนักพัฒนาหรือสมาชิกของชุมชน crypto ที่ไม่พอใจกับฟังก์ชันที่นำเสนอโดยการใช้งาน blockchain ที่มีอยู่ โดยกลายเป็นวิธีการระดมทุนสำหรับโครงการเทคโนโลยีใหม่หรือข้อเสนอของสกุลเงินดิจิทัล
- ฮาร์ดฟอร์กหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโปรโตคอลของเครือข่ายบล็อคเชนซึ่งส่งผลให้มีสาขาสองสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ อันหนึ่งเป็นไปตามโปรโตคอลก่อนหน้าและอีกอันที่ตามเวอร์ชันใหม่
- ในการ hard fork ผู้ถือโทเค็นใน blockchain เดิมจะได้รับโทเค็นใน fork ใหม่เช่นกัน แต่ผู้ขุดต้องเลือก blockchain ที่จะตรวจสอบต่อไป
- Hard Fork สามารถเกิดขึ้นได้ในบล็อคเชนใด ๆ และไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้น (ซึ่งการฮาร์ดฟอร์คได้สร้าง Bitcoin Cash และ Bitcoin SV เป็นต้น)
วิจารณ์ Hard fork
มีสาเหตุหลายประการที่นักพัฒนาอาจใช้ฮาร์ดฟอร์ก เช่น การแก้ไขความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่พบในซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่า เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานใหม่ หรือเพื่อย้อนกลับธุรกรรม เช่น เมื่อ Ethereum blockchain สร้างฮาร์ดฟอร์กเพื่อย้อนกลับ แฮ็คบน Decentralized Autonomous Organisation (DAO)
หลังจากการแฮ็ก ชุมชน Ethereum เกือบจะลงมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนการ hard fork เพื่อย้อนกลับธุรกรรมที่ดูดเอาสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์โดยแฮ็กเกอร์นิรนาม การมี hard fork ยังช่วยให้ผู้ถือโทเค็น DAO ได้รับเงินคืนอีกด้วย
ทีมงานเบื้องหลัง Bitcoin Cash (BCH)
Bitcoin Cash ถูกสร้างขึ้นในปี 2560 เมื่อนักพัฒนาไม่เห็นด้วยกับเส้นทางที่ Bitcoin ควรใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับบล็อคเชน ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่จ่ายให้กับคนงานต่างๆ เพื่อทำงานเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นกลายเป็นนักขุด ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2552 ถึง 2559 ในเดือนธันวาคม 2560 ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 0.03 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม ภายในเดือนมิถุนายน 2017 ค่าธรรมเนียมแตะ 5.56 ดอลลาร์ก่อนที่จะลดลงอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมและผันผวนตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีเพื่อพุ่งสูงขึ้นเป็น 54.64 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคมของปีนั้น
ผู้สร้าง BCH ต้องการเพิ่มขนาดของบล็อกภายในบล็อคเชนเพื่อให้สามารถจัดเก็บธุรกรรมได้มากขึ้น ในทางทฤษฎี ธุรกรรมต่อบล็อกมากขึ้นจะลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม นักพัฒนารายอื่นไม่เห็นด้วยว่านี่เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้นนักพัฒนา BCH จึงสร้างส้อมจากบล็อกเชน Bitcoin
ตัวชี้วัดสำคัญของเหรียญ BCH
ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของ Bitcoin Cash (BCH)
- Bitcoin ถูกจำกัดด้วยเวลาในการประมวลผล ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างกลุ่มต่างๆ ภายในการขุด Bitcoin และชุมชนที่กำลังพัฒนา แต่ Bitcoin cash ไม่เป็นอย่างนั้น
- Bitcoin Cash เริ่มต้นโดยนักขุด Bitcoin และนักพัฒนาที่มีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin cryptocurrency และความสามารถในการปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แม้ว่าบล็อก Bitcoin จะจำกัดไว้ที่ 1 MB แต่บล็อก BCH อาจมีขนาดสูงสุด 32 MB
ราคาของ Bitcoin Cash ขึ้นอยู่กับราคาของบิทคอยน์ไหม
Bitcoin และ Bitcoin Cash เป็นเหรียญที่แยกจากกัน และทั้งคู่ก็คาดเดาไม่ได้เท่าๆ กัน มีบล็อกนักลงทุน crypto มากมายที่คุณสามารถอ่านเพื่อดูการวิเคราะห์ของพวกเขาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ BTC และบางคนอาจคาดเดาว่าแต่ละบล็อกจะมีความสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกันได้อย่างไร แต่ท้ายที่สุดแล้ว ธุรกรรมใดๆ ก็ตาม คุณควรที่จะศึกษาทั้งสองเหรียญและดูกราฟ เพื่อหาความเหมาะสมในการลงทุน
เปรียบเทียบ BTC vs BCH
การประมวลผล Bitcoin ถูกจำกัดด้วยเวลาในการประมวลผล ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างกลุ่มต่างๆ ภายในการขุด Bitcoin และชุมชนที่กำลังพัฒนา
การคิดค้น Bitcoin Cash เริ่มต้นโดยนักขุด Bitcoin และนักพัฒนาที่มีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin cryptocurrency และความสามารถในการปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขนาดของบล็อก แม้ว่าบล็อก Bitcoin จะจำกัดไว้ที่ 1 MB แต่บล็อก BCH อาจมีขนาดสูงสุด 32 MB
ขนาดของตลาด ในขณะนี้ Bitcoin Cash มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 7.1 พันล้านดอลลาร์ นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าตลาดของ Bitcoin ที่ 881 พันล้านดอลลาร์
ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นของ Bitcoin Cash (BCH)
- Bitcoin Cash มีการนำไปใช้และกิจกรรมลูกโซ่ ถึงแม้ว่าจะเล็กน้อย แต่ก็มี แม้จะแยกตัวออกจาก Bitcoin เพื่อให้มีราคาถูกลงและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับทุกคน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยเสมอไป
- เครือข่าย Bitcoin Cash มีความปลอดภัยน้อยกว่าและรวมศูนย์มากกว่าเครือข่าย Bitcoin
- ความสำเร็จของ Bitcoin Cash นั้นขึ้นอยู่กับ Roger Ver และ Bitmain เป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีสัดส่วน BCH ที่ใหญ่เกินไป และมีอิทธิพลอย่างมากต่อโครงการ
- ช่องโหว่จำนวนมากถูกค้นพบในฐานรหัส Bitcoin Cash รวมถึง “ช่องโหว่ที่สำคัญ” ที่ค้นพบโดยนักพัฒนา Bitcoin และการทำธุรกรรมแบบแยกส่วนที่อาจเสี่ยงต่อกาโกงและเอาเปรียบในช่วงเวลาสั้น ๆ
อนาคตของ Bitcoin Cash จะไปในทิศทางไหน
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลของ Bitcoin มีความผันผวนสูง และการเปลี่ยนแปลงของราคาที่สำคัญสามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาทีเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น กฎระเบียบ การแข่งขัน การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ ความรู้สึกในตลาด ฯลฯ มีการคาดการณ์บางอย่างจากผู้ค้า ผู้สนใจ หรือแม้แต่การคาดการณ์ของสกุลเงินดิจิทัล มีหลายเว็บไซต์ได้ทำการคาดการณ์ราคา Bitcoin Cash ในอนาคต แม้ว่า Bitcoin Cash จะต้องพยายามอย่างมากที่จะแยกตัวออกจากแหล่งกำเนิดและแข่งขันกับ cryptocurrencies คู่แข่งอย่างยาวนานและยากลำบาก แต่ก็ไม่นานนักที่มันจะทำได้ดีกว่าในช่วงปี 2022 อย่างแน่นอน มีการคาดการณ์กันว่าราคา Bitcoin Cash BCH จะแตะราคาเฉลี่ยที่ $1500 ภายในสิ้นปี 2025 เมื่อพิจารณาจากกราฟต่างๆ
การขุด Bitcoin Cash
หลายคนที่สนใจในสกุลเงินดิจิทัลต่างก็สนใจในการขุด crypto โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเหรียญยอดนิยม เช่น bitcoin (BTC), ether (ETH) และ doge (DOGE) โดยทั่วไป การขุด crypto อาจซับซ้อนเท่าที่คุณต้องการ
- มีแท่นขุดเจาะ crypto โดยสามารถเลือกหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) หน่วยประมวลผลทั่วไป (GPU) อาร์เรย์เกทแบบตั้งโปรแกรมภาคสนาม (FPGA) และวงจรรวมเฉพาะแอปพลิเคชัน (ASIC) เป็นฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ ทั้งหมดที่สามารถใช้ขุดคริปโตได้ แท่นขุดเจาะเหล่านี้แตกต่างกันไปในอัตราแฮชและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งเป็นสองปัจจัยสำคัญในการกำหนดผลกำไรจากการขุด
- มีอัลกอริธึมในการขุดและกระบวนการขุดโดยรวมสำหรับ BCH
- ปรับให้เหมาะสมสำหรับ BCH มักจะชี้ไปที่เหรียญ SHA-256 ใด ๆ ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในขณะนี้ นอกเหนือจากนี้ Bitcoin fork อื่น Bitcoin Satoshi Vision (BSV) ยังใช้ SHA-256 ดังนั้นนักขุดเหล่านี้จึงอาจสลับไปมาระหว่างเหรียญทั้งสาม (BTC, BCH และ BSV) ขึ้นอยู่กับความยากในการขุดและราคาตลาดปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น หาก BTC อยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และ BCH เท่ากับ 5,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ความยากในการขุด BCH ที่ 1/10 ของ BTC จะส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนเท่ากัน (ในระยะยาว) เนื่องจากผู้ขุดมีโอกาสมากกว่า 10 เท่า รับรางวัลบล็อก BCH ความยากในการขุด BCH ที่ 1/20 ของ BTC จะส่งผลให้ BCH มีกำไรเป็นสองเท่าในการขุด หากความยากในการขุดของ BCH คือ 1/5 ของ BTC นั้น BCH จะทำกำไรได้เพียงครึ่งเดียว
สรุป
ในระยะยาว Bitcoin Cash ได้รับอิทธิพลจากการนำไปใช้เพราะเป็นการมีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ และมีการยอมรับมากขึ้น ดังนั้นหากใครที่ต้องการจะลงทุนใน BCH ตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ราคาอยู่ขาลง โดยหากมองในระยะยาวก็อาจจะทำให้ได้รับผลกำไรเป็นอย่างมาก เพราะซื้อมาในราคาที่ต่ำ หากคุณต้องการสนใจที่จะเทรด BCH หรือสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ก็สามารถทำการเทรดได้ที่ CM Trade ซึงมีความน่าเชื่อถือ และมีแพลตฟอร์มที่คุณสามารถลงทุนได้ในสินทรัพย์อื่นๆมากมาย โดยผู้เขียนก็หวังว่า คุณผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย
