วันนี้ เราจะมาพูดถึง กุลยุทย์ที่เป็นที่นิยม และมีมานานมาก อย่าง carry trade นะครับ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก ถึง ความหมาย หลักการทำงาน และวิธีการทำกำไร จากการ Carry Trade เรามาหาเหตุผลกัน ว่าทำไม Carry Trade ในตลาด Forex จึงควรเป็นหัวข้อสำคัญที่คุณควรศึกษา
Carry Trade คืออะไร
Carry Trade เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนกู้ยืมเงินจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ หรือ ตราสาร ที่มีผลตอบแทนที่สูงขึ้น กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศเพื่อทำกำไร
Carry Trade ทำงานอย่างไร
การเทรดแบบ Carry Trade เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยม ซึ่งเกิดขึ้นจากหลักการพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์ กล่าวคือ ในการทำกำไร คุณต้องซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูง
ในตลาด Forex สามารถทำได้โดยการซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยการทำเช่นนี้ เทรดเดอร์จะมีความเสี่ยงน้อยมาก เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาจะได้รับรายได้จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย
กลยุทธ์นี้สามารถใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานอื่นๆ เพื่อสร้างการซื้อขายที่มีกำไร อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า Carry Trade เป็นกลยุทธ์ระยะยาว ดังนั้น จึงไม่ควรใช้งานโดยนักเทรดรายวันหรือผู้ที่มองหาผลกำไรอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์นี้สามารถใช้เพื่อทำกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง และสามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ข้อได้เปรียบหลักของ Carry Trade คือมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจข้อดีและข้อเสียทั้งหมดก่อนที่จะลองใช้
ข้อดีของ Carry Trade
การเทรดแบบ Carry Trade สามารถทำกำไรได้ด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้
- ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยสำหรับสถานะที่ถือครองข้ามคืน ซึ่ง โบกเกอร์ จะเรียกมัน ว่า Forex Swap หรือ “ค่า Swap” นักเทรดที่มีทักษะสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มขนาดการเทรดของพวกเขา และใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาดเพื่อซื้อเมื่อราคาสกุลเงินต่ำ
- ยังมีโอกาสที่จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาอีกด้วย ถ้าเปรียบเป็นหุ้นก็เหมือนซื้อหุ้นตอนราคาต่ำแล้วขายตอนราคาสูง ที่สามารถรับเงินปันผลได้ตลอดเวลาเช่นกัน
ข้อเสียของ Carry Trade
เราจะเห็นว่านอกเหนือจากการได้รับส่วนต่างจากดอกเบี้ย Swap แล้ว ยังมีโอกาสที่จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาอีกด้วย คล้ายกับการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำแล้วขายที่ราคาสูง แต่ได้ผลประโยชน์เพิ่มเติมคือได้รับเงินปันผลเมื่อใดก็ได้
มีข้อเสียเล็กน้อยสำหรับกลยุทธ์ Carry Trade ที่นักลงทุนที่มีศักยภาพควรทราบ
- คือตลาด Forex อนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การซื้อขายที่ประมาทหรือเลินเล่อ
- อัตราดอกเบี้ยของ Carry Trade ยังขึ้นอยู่กับความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอีกด้วย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสำหรับ swap จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามสภาวะตลาด ทำให้การคาดการณ์กระแสเงินสดจากอัตราดอกเบี้ยทำได้ยาก
กลยุทธ์ของ Carry Trade
Carry Trade เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เราใช้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า การทำเช่นนี้เราหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย
นี่เป็นกลยุทธ์ที่เรามักจะทำกัน เราสามารถทำกำไรได้ตลอดเวลาที่เรามีตำแหน่งการซื้อขาย
ตัวอย่างของการทำ Carry trade
ดำเนินกลยุทธ์การซื้อขาย
สมมุติว่าเราสามารถกู้เงินกับธนาคารได้ 100,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 1% ต่อปี (เท่ากับ 1,000 บาทต่อปี)
จากนั้นเราก็นำเงินนั้น เพื่อลงทุนในตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนต่อปี 5% ต่อปี (เท่ากับ 5,000 บาทต่อปี)
โดยเราสามารถกินส่วนต่างของดอกเบี้ยได้ฟรีถึง 4% ต่อปี (หรือ 4,000 บาทต่อปี)
บางคนอาจฟังดูน้อย แต่จริงๆ แล้ว สินทรัพย์ที่มีเลเวอเรจ เช่น Forex ,CFD เราสามารถลงทุนน้อยลง ซึ่งจะทำให้ % กำไรต่อปีของเราเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ดังตัวอย่างที่แล้ว หากเราใช้เลเวอเรจ 20 เท่า หมายความว่าเราจะได้รับผลกำไรสูงถึง 80% ต่อปี
ความเสี่ยงของ Carry Trade
เช่นเดียวกับกลยุทธ์การซื้อขาย Forex อื่นๆ ต้องมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง และกลยุทธ์ Carry Trade
- ด้วยเหตุผลหลายประการ ประเทศที่คุณกู้เงินมาอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สิ่งนี้จะทำให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหายไปทันที และอาจทำให้คุณขาดทุนได้
- ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ คือการแข็งหรืออ่อนของคู่สกุลเงิน Forex ที่คุณกำลังซื้อขาย เนื่องจากหากเศรษฐกิจของประเทศใดอ่อนแอลง อาจจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยและทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลง ในทางกลับกัน หากประเทศใดมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สกุลเงินของประเทศนั้นจะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น
จากความเสี่ยงด้านบน เราอาจจะได้กำไรจาก ค่า swap แต่พอคำนวนดีๆ เราอาจจะขาดทุนจากค่าเงินที่อ่อนลงก็ได้
Carry Trade คู่ไหนดีหรอ
ขั้นตอนแรกในการเลือก Carry Trade ที่ดีคือการมองหาสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่น มีอัตราดอกเบี้ย -0.10% ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถยืมในอัตราดอกเบี่ยที่ต่ำมากๆ แล้วลงทุนในสกุลเงินอื่นที่มีอัตราดอกเบี่ยสูงกว่า
สูตรง่ายๆ คือควรจำคือ
- Sell สกุลเงินที่ดอกเบี้ยต่ำๆ = เปรียบเหมือนกำลังกู้เงินจากประเทศนั้น
- Buy สกุลเงินที่ดอกเบี้ยสูงๆ = เข้าไปถือสกุลเงินนั้น
ถ้าเราพิจารณาไป ที่ คู่เงิน USD/JPY จะเห็นได้ว่า หากคุณเลือกที่จะ Long (หรือการ Buy) คุณจะได้ดอกเบี้ย Swap ที่อัตรา 0.482 Pips : ข้อมูล ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2022
เปรียบเหมือนคุณ Sell JPY — แล้วกลับมา Buy ที่ USD หรือก็คือการไปกู้เงินจากประเทศญี่ปุ่นด้วยอัตราดอกเบี้ย -0.1% แล้วนำไปลงทุนที่ประเทศสหรัฐฯ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 4% แต่ความจริงคุณจะเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่คุณควรจะได้รับก็ควรจะอยู่ที่ 4.1% เมื่อนำ -0.1% หักออกจาก 4% แต่ถึงอย่างไร ก็มีส่วนต่างของค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
ทั้งนี้ กำไรจากการ Carry Trade ในคู่ USD/JPY ก็คือวันละ 0.482 Pips นั่นเอง แต่ต้องขึ้นอยู่กับขนาด Lot ของคุณด้วย เช่น ถ้าคุณ Buy ที่คู่เงิน USD/JPY เป็นจำนวน 1 Lot เมื่อเวลาผ่านไป 1 คืน คณจะได้กำไรจากดอกเบี้ย Carry Trade หรือค่า Swap เป็นจำนวน 0.482 USD ต่อวัน
วิธีการทำ Carry Trade
เพื่อใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างโบรกเกอร์สองราย เราสามารถใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Carry Trade หลักการของ Carry Trade อ้างอิงจากตัวอย่างที่โบรกเกอร์หนึ่งมีอัตราดอกเบี้ยติดลบ ในขณะที่อีกโบรกเกอร์หนึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก หากอัตราของ EURUSD โบรกเกอร์ A คือ -1% และ +0.5% ในขณะที่โบรกเกอร์ B มีอัตรา -0.3% และ + 0.7% ดังนั้นเราจะ Sell EURUSD ที่โบรกเกอร์ A ซึ่งจะทำให้เราได้รับ + 0.5% และ จากนั้นเราเปิดสถานะ Buyโดยขาดทุน -0.3% ที่ โบรกเกอร์ B ดังนั้นกำไรรายวันของเราคือ 0.2% ต่อวัน
ข้อควรระวังของ Carry Trade
- ในการเทรด เรามองหาคู่สกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก ในกรณีที่เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างควบคุมไม่ได้ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นวิธีหนึ่งในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ นี่เป็นสิ่งที่ดี
- ถ้าประเทศใดมีเศรษฐกิจไม่ดีและต้องการดึงดูดเงินทุน โดยเสนออัตราดอกเบี้ยสูง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะส่วนใหญ่แล้วประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงจะให้อัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นเงินเยน แต่เมื่อมีความไม่แน่นอน คนส่วนใหญ่จะหันไปหาเงินเยนนี้เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยกว่า
สรุป
การเทรด forex แบบ Carry Trade เกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินหนึ่งและการขายสกุลเงินอื่นพร้อมกัน กลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำกำไรจากอัตราดอกเบี้ย ซึ่งขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยที่ได้รับจากการถือสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง หรือจากความแตกต่างของราคาระหว่างสองสกุลเงิน
อย่างไรก็ตาม กำไรเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความผันผวนอย่างมากในสกุลเงินที่ซื้อขายด้วย ความเสี่ยงหลักที่เกี่ยวข้องกับ Carry Trade forex คืออัตราดอกเบี้ยหรืออัตราแลกเปลี่ยนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและทำให้สถานะดังกล่าวไม่สามารถทำกำไรได้